สัมภาษณ์พิเศษ ‘สมสุก พิมพะจัน’ ประธานกลุ่มบริษัท ลาวธานี กรุ๊ป ผู้พลิกโฉมตลาดรถยนต์ใน สปป.ลาว เคยมีความคิดซื้อรัฐวิสาหกิจของประเทศเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ
PPTV Online ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษ “สมสุก พิมพะจัน” ประธานกลุ่มบริษัท ลาวธานี กรุ๊ป (Mr. Somsouk Phimphachanh, President of Laothani Group) นักธุรกิจรายใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 5 ของขนาดธุรกิจใหญ่ที่สุดใน สปป.ลาว ซึ่งประกอบธุรกิจรถยนต์และเครื่องจักรกลหนักภายใต้ชื่อ ลาวธานี (LAOTHANI)
สมสุก เล่าให้ฟังว่า ลาวธานี เริ่มก่อตั้งบริษัทใน สปป.ลาว มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1985 (พ.ศ. 2528) หรือเป็นระยะเวลากว่า 38 ปี โดยดำเนินธุรกิจยานยนต์, เครื่องจักรกลหนัก และ ธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับรถยนต์
ย้อนกลับไปเมื่อ 38 ปีก่อน ในวันที่ประชากรของ สปป.ลาว มีจำนวนอยู่ที่ 3 ล้านคน ในวันนั้นตลาดรถยนต์ สปป.ลาว ถือเป็นตลาดเกิดใหม่โดยยังเป็นตลาดที่เป็นรถยนต์มือสอง และรถยนต์นำเข้าเป็นหลัก ซึ่งเราได้นำเข้ารถยนต์โตโยต้าในช่วงแรกเพียง 7-8 คัน และทยอยเพิ่มขึ้นเป็นหลักพันในเวลาต่อมา กระทั่งปัจจุบันประชากรของ สปป.ลาว มีจำนวนอยู่ที่ราว 7 ล้านคน
“ลาวธานี ถือเป็นจุดเปลี่ยนของตลาดรถยนต์ใน สปป.ลาว จากรถมือสองเป็นรถใหม่ และเราเป็นดีลเลอร์รายแรกของโตโยต้า (TOYOTA) ใน สปป.ลาว และเป็นแบรนด์โตโยต้าในทุกวันนี้ “
สำหรับ ธุรกิจหลักของ ลาวธานี ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์เป็นหลักโดยใช้ความแข็งแกร่งของครอบครัวที่สนใจในธุรกิจด้านนี้แบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบสู่รุ่นที่ 2 (ลูก) ทั้ง 4 คน ในการรับผิดชอบดูแลธุรกิจต่าง ๆ ในบริษัท
ด้านการแข่งขันในตลาดรถยนต์ สปป.ลาว ปัจจุบันมีการแข่งขันที่รุนแรงในทุกด้าน อาทิ แข่งขันด้านราคา, แข่งขันด้านบริการ และแข่งขันด้านคุณภาพผลิตภัณฑ์ ซึ่ง ลาวธานี ในฐานะผู้นำตลาดรถยนต์ โดยปัจจุบันมีอันดับ 1 ด้านยอดขายของ โตโยต้า และ โคมัตสุ ใน สปป.ลาว โดยสิ่งที่ทำให้บริษัทครองอันดับ 1 ด้านยอดขายมาอย่างยาวนานคือ คุณภาพและความซื่อสัตย์ในการดำเนินธุรกิจ
โดยบริษัทยอมรับว่า การขายรถยนต์ใน สปป.ลาว เราเป็นบริษัทที่ขายราคาสูงเมื่อเทียบกับบริษัทอื่น ๆ แต่ด้วยความเชื่อมั่นของลูกค้าชาวลาว ที่ส่งต่อความเชื่อมั่นจากรุ่นสู่รุ่นที่ไว้ใจในด้านการบริการและความมั่นใจในด้านคุณภาพรถที่มีเอกสารในการจดทะเบียนอย่างถูกต้องโปร่งใส
ด้วยความที่บริษัท ลาวธานี เป็นบริษัทสัญชาติลาวแท้ 100% จึงถือเป็นจุดแข็งในความเข้าใจลูกค้าชาวลาว และมีแผนที่จะขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องโดยมีหัวใจในการขยายธุรกิจคือ ‘คุณภาพ’ โดยไม่ใช่แค่คุณภาพของสินค้าแต่ต้องเป็นคุณภาพในทุกด้านรวมถึงด้านการบริการที่จะต้องรองรับลูกค้าของเราด้วย
ขณะที่ การแข่งขันทางธุรกิจในปัจจุบันเปรียบเทียบกับเมื่อ 30 ปีก่อนมีความแตกต่างกันอย่างมาก โดยมีการแข่งขันจากคู่แข่งในต่างประเทศเยอะขึ้นและมีการแข่งขันเพิ่มขึ้นในทุกรูปแบบ ซึ่งรถยนต์สัญชาติจีนมีการพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่องเพื่อให้แข่งขันได้กับแบรนด์สัญชาติญี่ปุ่น และ ยุโรป ซึ่งในอนาคตมองว่าเราอาจจะต้องเพิ่มการลงทุนในการนำเอาแบรนด์จีนมาทำตลาดใน สปป.ลาว ด้วยเช่นกัน
ปัจจุบันนี้ ลาวธานี ถือได้ว่าเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ 1 ใน 5 ของ สปป.ลาว ที่เป็นธุรกิจสัญชาติลาวแท้ ไม่รวมกับธุรกิจต่างชาติ โดยนอกเหนือจากธุรกิจรถยนต์ที่มีขนาดใหญ่ใน สปป.ลาว ยังมีธุรกิจอื่น ๆ ที่กำลังมีแนวโน้มเติบโตในอนาคตอาทิ เกษตร, อสังหา, เหมือง ซึ่งอีกในระยะเวลาอันใกล้จะมีการเติบโตขึ้นจากการลงทุนและการขยายตัว
สมสุก กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์เศรษฐกิฐมีภาวะเงินเฟ้อรุนแรง แต่สำหรับภาคธุรกิจยังสามารถเติบโตต่อไปได้ ส่วนปัญหาอุปสรรค์ที่ส่งผลให้เศรษฐกิจใน สปป.ลาว ไม่ขยายตัวคือ อัตราค่าไฟฟ้าที่มีราคาสูง โดยหากมีการแก้ไขปัญหาดังกล่าวจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ
“ส่วนตัวเคยมีความคิดในการซื้อรัฐวิสาหกิจของ สปป.ลาว อาทิ การไฟฟ้า, การประปา, สายการบิน เพื่อนำมาพัฒนาให้ประเทศมีการเติบโตได้แต่เป็นเพียงแค่ความคิดซึ่งเคยลองแล้วแต่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้จริง”
อย่างไรก็ตาม เป้าหมายของ ลาวธานี หลังจากนี้คือการปรับเปลี่ยนให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ซึ่งการเติบโตของบริษัทขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจและการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ที่จะส่งผลต่อยอดขายของผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท โดยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมามียอดขายเฉลี่ยราว 10,000 คัน/ปี จากภาพรวมตลาดรถยนต์ใน สปป.ลาว อยู่ที่เฉลี่ย 23,000-24,000 คัน/ปี
ปัจจุบัน ลาวธานี กรุ๊ป ประกอบธุรกิจดังนี้
- KOMATSU
- SAKAI
- HYUNDAI EVERDIGM
- AJCE
- ATLASBX
- OKADA AIYON
- DONALDSON
- ATLAS COPCO
- BOSCH
- SKF
- TOYOTA
- HINO
- WELMEISTER
- PEUGEOT
- PTT EV PLUZ – BLUE DOT
- SHACMAN
- FAW
- DONGFENG
- DYNAPAC
- SHELL
- GULF