ในปี 2566 ลาวมีรายได้มากกว่า 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐจากการส่งออกผลิตผลทางการเกษตร ซึ่งเกินเป้าหมายปี 2566 ร้อยละ 20.18 นายทองพัด วงมะนี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกสิกรรม และป่าไม้ สปป. ลาว กล่าวถึงการพัฒนาในภาคส่วนนี้ว่า มูลค่าการผลิตในภาคเกษตร และป่าไม้ขยายตัวร้อยละ 3.4 ในปี 2566 คิดเป็นร้อยละ 21.4 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ
โดยมีการเก็บเกี่ยวพืชผลประมาณ 9.74 ล้านตัน ซึ่งเกินเป้าหมายร้อยละ 3.7 โดยผลผลิตมันฝรั่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 28.62 กาแฟร้อยละ 7.5 กล้วยร้อยละ 16.7 และอ้อยร้อยละ 10.1 ปัจจุบันมีฟาร์มปศุสัตว์ 2,261 แห่ง มีสัตว์มากกว่า 6.5 ล้านตัว เพิ่มขึ้น 123 ฟาร์มเมื่อเทียบกับปี 2565
จำนวนดังกล่าวประกอบด้วยฟาร์มปศุสัตว์ 55 ฟาร์ม ฟาร์มหมู 34 ฟาร์ม และฟาร์มสัตว์ปีก 18 ฟาร์ม ซึ่งจัดหาเนื้อสัตว์ร้อยละ 41 ของประเทศ และรัฐบาลยังคงเจรจาการค้าส่งออกผลิตผลทางการเกษตรอย่างต่อเนื่อง โดยปัจจุบันสามารถส่งออกสินค้าได้ 64 ประเภท มากกว่าปี 2565 16 ประเภท ซึ่งในจำนวนนี้ มีการส่งออกผลิตภัณฑ์ 33 ประเภทไปยังประเทศจีน โดย 30 ประเภทเป็นพืช และพืชผล และ 3 รายการเป็นสัตว์
นอกจากนี้ ลาวยังจำหน่ายพืชไร่ และพืชทั่วไป 16 ชนิดให้เวียดนาม และพืชไร่และพืชทั่วไป 15 ชนิดให้ไทย ทั้งนี้ สหภาพยุโรปยอมรับสินค้าเกษตรทุกประเภท แต่ต้องเป็นไปตามกฎระเบียบการนำเข้าของสหภาพยุโรป ในแง่ของการนำเข้า พืช และผลิตภัณฑ์จากพืชมูลค่า 109 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่ผ่านจุดตรวจกักกันในปี 2566 เพิ่มขึ้น 22.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และร้อยละ 26 จากตัวเลขในปี 2565 โดยมีสินค้าเกษตรหลักที่ส่งออก ได้แก่ กล้วย ยางพารา มันสำปะหลัง อ้อย วัว และกระบือ โดยจีนเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ที่สุด
อย่างไรก็ตาม เกษตรกร และผู้ผลิตในประเทศลาวยังมีอุปสรรคจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น สาเหตุหลักมาจากราคาเชื้อเพลิงที่พุ่งสูงขึ้น นอกจากนี้ราคาเครื่องจักร ปุ๋ย และอาหารสัตว์ยังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเนื่องจากการนำเข้าและต้องชำระเป็นสกุลเงินต่างประเทศซึ่งมีราคาแพงเนื่องจากการอ่อนค่าของเงินกีบอย่างต่อเนื่อง
ที่มา : Vientiane Times
สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เวียงจันทน์ สปป.ลาว
อ้างอิง : กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ