สายเลือดนักการเมือง ‘เอกธนัช อินทร์รอด’ ส.ส.หนองคาย ขวัญใจมหาชน ทำความรู้จัก เอกธนัช อินทร์รอด ส.ส.หนองคาย เขต 3 พรรคเพื่อไทย …. “สายเลือดนักการเมือง ก้าวข้ามความขัดแย้ง มุ่งมั่นพัฒนา แก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นอันดับแรก”
หากจะตรวจบัญชีรายชื่อ ส.ส.ชุดเลือกตั้ง 14 พ.ค. 66 ทั้ง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ และ ส.ส.ระบบแบ่งเขต รวม 500 คนแล้ว จะพบว่ามีทั้ง ส.ส.หน้าเก่า และ ส.ส.หน้าใหม่ จากหลายพรรคการเมืองคละเคล้ากัน ที่โดดเด่นน่าจับตาในฐานะ “ส.ส.อนาคตไกล” จากที่ราบสูงอีสานตอนบนคนหนึ่ง ซึ่งกลายเป็น ส.ส.ขวัญใจมหาชนคนหนองคาย เขต 3 ไปแล้วโดยปริยาย คือ “เอกธนัช อินทร์รอด” ส.ส.หนองคาย เขต 3 พรรคเพื่อไทย
เอกธนัช อินทร์รอด ส.ส.หนุ่มโสด ไฟแรง ปัจจุบันอายุ 54 ปี เป็น ส.ส.หลายสมัย สังกัดพรรคเพื่อไทย เจ้าของคติประจำใจ “มุ่งมั่นทำงาน เพื่อพี่น้องประชาชน ให้มีความเป็นอยู่ที่ดี มีอยู่ มีกิน”

ส.ส.เอกธนัช สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม และปริญญาโท ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (รัฐศาสตร์) มหาวิทยาลัยรามคำแหง เคยประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัว เคยทำงานเป็นข้าราชการการเมือง ประจำสำนักงานเลขาธิการนายกรัฐมนตรี, เป็นอดีตนายทะเบียนพรรคเพื่อไทย และอดีตเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ส.ส.เอกธนัช เล่าว่า ตนมีสายเลือดนักการเมืองเข้มข้น โดยคุณพ่อคือนายปราการ อินทร์รอด อดีตประธานสภา อบจ. และอดีต ส.จ.หนองคาย หลายสมัย จากการที่เคยเห็นคุณพ่อทำงานการเมืองมาตั้งแต่วัยเด็ก ได้ช่วยเหลือสังคม บรรเทาความเดือดร้อนให้ชาวบ้าน เป็นผู้มีบทบาทสำคัญ ในการผลักดันให้เกิดการพัฒนาท้องถิ่นในทุกๆ ด้าน จึงเกิดการซึมซับ จนกลายเป็นความชอบส่วนตัว ก่อนที่จะกลายเป็นแรงจูงใจตัดสินใจลงเล่นการเมือง

“ภาพที่เคยเป็นคุณพ่อทำงานการเมืองดังกล่าว ผมรู้สึกชื่นชม ภาคภูมิใจที่คุณพ่อเป็นตัวอย่างที่ดี ในการทำหน้าที่ด้วยความเสียสละ เพื่อท้องถิ่น เพื่อสังคม และเพื่อพี่น้องประชาชน โดยลงพื้นที่พบปะและดูแลพี่น้องประชาชนต่อเนื่อง ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้น พี่น้องประชาชนพึงพอใจและมีความสุข ทำผมให้คิดอยากลงเล่นการเมือง เพื่อสานต่องานทางการเมือง ช่วยเหลือชาวบ้าน ทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ จึงตั้งธงไว้ว่าหากมีโอกาส จะลงเล่นการเมืองทันที เล่นทั้งทีต้องเวทีใหญ่ไปเลย เพื่อจะได้เต็มที่กับการทำหน้าที่นักการเมือง นักการเมืองรุ่นใหม่ที่มีคุณพ่อเป็นเบ้าหลอม และมีอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร เป็นไอดอล”
ส.ส.เอกธนัช บอกว่า เริ่มเดินตามรอยคุณพ่อบนถนนสายการเมือง โดยได้รับการสนับสนุนจากผู้หลักผู้ใหญ่หลายๆ ท่าน จึงตัดสินใจลงสมัครเลือกตั้งสนามใหญ่ สังกัดพรรคไทยรักไทย เพราะเชื่อมั่นในนโยบายของพรรค ที่สามารถแก้ไขปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนได้ทั้งประเทศ จากการตัดสินใจเล่นการเมืองสนามใหญ่ดังกล่าว พ่อแม่พี่น้องชาวหนองคายเขต 3 ได้ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดียิ่ง โดยเคยได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. ติดต่อกัน 2 สมัย คือสมัยแรกเมื่อปี พ.ศ. 2544 และสมัยต่อมาในปี 2548

“ต่อมาในปี 2554 ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อของพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 73 แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง เนื่องจากทางพรรคได้รับเลือกตั้ง 61 คน แม้จะไม่ได้เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ แต่ยังได้รับโอกาสจากทางพรรค ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กระทั่งในปี 2562 ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เขต จ.หนองคาย เขตการเลือกตั้งที่ 3 พื้นที่ อ.สังคม, อ.โพธิ์ตาก, อ.ศรีเชียงใหม่, อ.ท่าบ่อ และ อ.เมืองหนองคาย (เฉพาะ ต.เวียงคุก และต.พระธาตุบังพวน) ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชน เลือกเข้ามารับใช้ในฐานะผู้แทนฯ อีกเป็นสมัยที่ 3 และล่าสุด ปี 2566 ลงสมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.เขต ในเขตเลือกตั้งที่ 3 ในนามพรรคเพื่อไทย และได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนเช่นเดิม โดยรับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.หนองคาย เขต 3 สมัยที่ 4”
ส.ส.เอกธนัช เล่าต่อว่า ตนมองการเมืองในทุกวันนี้ เป็นการขัดแย้งทางความติด ที่หลายคนคิดไม่ตรงกัน สร้างกระแสทางโซเซียล ให้เกิดความแตกแยก ซึ่งหลังจากการเลือกตั้งผ่านพ้นไปและมีการตั้งรัฐบาลใหม่ เชื่อเหลือเกินว่าความคิดที่แตกต่างกันเมื่อวานและในวันนี้ ก็จะได้ข้อสรุปที่ดีในวันข้างหน้า และเป็นสิ่งที่ดีที่จะนำมาไตร่ตรองหาข้อสรุป เพื่อก้าวข้ามความขัดแย้งที่เคยมี และนำไปสู่การพัฒนาให้ดีที่สุดเพื่อพี่น้องประชาชน เชื่อว่าพี่น้องประชาชนต้องการนักการเมืองที่มีความรู้ ความสามารถ มีประสบการณ์ ที่พัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าในทุกๆ ด้าน ทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม ความมั่นคง ความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ซึ่งตนยังเชื่อมั่นว่าประชาชนทุกคน ต้องการความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี

“หลังได้รับเลือกตั้ง สิ่งแรกที่ต้องทำ คือต้องให้พี่น้องประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ส่งเสริมให้ราคาสินค้าทางการเกษตรทุกชนิดสูงขึ้น ลดต้นทุนและปัจจัยการผลิตภาคการเกษตร ส่งเสริมสนับสนุนการค้าชายแดน ให้พี่น้องประชาชนได้มีพื้นที่ค้าขาย สร้างรายได้อย่างยั่งยืน อีกปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไขโดยด่วนคือปัญหายาเสพติด ซึ่งบั่นทอนทั้งทางร่างกายและสังคม ปัจจุบันเกิดเหตุการณ์ความสูญเสีย ความเดือดร้อน รวมทั้งภัยสังคมต่างๆ ที่มีต้นเหตุจากยาเสพติด บางรายถึงขั้นทำร้ายร่างกายตนเองและคนในครอบครัว นอกจากนี้ ยังทำให้สังคม ผู้บริสุทธิ์ได้รับความเดือดร้อน ดังที่ปรากฏตามสื่อโซเชียลหลายกรณี เพราะฉะนั้นต้องเร่งแก้ไขเป็นอันดับต้นๆ” “เอกธนัช อินทร์รอด” ส.ส.หนองคาย เขต 3 พรรคเพื่อไทย กล่าวทิ้งท้าย
ที่มา เดลินิวส์